ทุบกระปุกเดี๋ยวนี้ ! ร้านของโบราณ รับซื้อเหรียญ 5-10 บาท จ่ายสูงสุดหลักหมื่น

ทุบกระปุกเดี๋ยวนี้ ! ร้านของโบราณ รับซื้อเหรียญ 5-10 บาท จ่ายสูงสุดหลักหมื่น

หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก ร้านรับของเก่า เหรียญ-แบงก์เก่า ได้ออกมาโพสต์ว่า รับซื้อเหรียญ 5-10 บาทที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยหากเป็นไปตามเงื่อนไขร้าน จะได้รับเงินสูงสุดหลักหมื่นด้วย ยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ บวกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็มีประชาชนคนไทย ส่วนใหญ่ต่างนำสิ่งของที่มีค่าออกเปลี่ยนเป็นเงิน เพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแทน

ซึ่งมีทางด้านเพจ IndyCoin&Banknote 

รับซื้อเหรียญ แบงค์เก่า และของโบราณเพจที่รับซื้อ-เช่า เหรียญเก่า, แบงค์เก่า, พระเครื่อง, พระบูชา, เงินพดด้วง, เงินโบราณ และ ของโบราณทุกอย่าง ได้ออกมาประกาศรับซื้อเหรียญ 5-10 บาทจำนวนมาก

ซึ่งหากเป็นเหรียญ 5 บาทเป็นปี พ.ศ. 2546 จะได้ราคาที่ราว ๆ 200-600 บาท และจะยิ่งได้ราคาดีมากยิ่งขึ้นหากเหรียญ 5 บาทนั้นเป็นปี พ.ศ. 2540 จะได้ประมาณ 4,000-10,000 บาทเลยทีเดียว

ส่วนเหรียญ 10 บาท นั้นจะมูลค่าน้อยกว่า เหรียญ 5 บาท อยู่พสมควร หากเป็นเหรียญปี พ.ศ. 2531 จะได้อยู่ที่ 300-800 บาทเท่านั้น โดยราคาของแต่ละเหรียญ จะขึ้นอยู่กับสภาพความเก่าและใหม่ของเหรียญด้วย

และหากใครมีเหรียญ 5-10 บาท อยู่ในกระเป๋าตอนนี้ ก็อย่าลืมควักขึ้นมาดูซะหน่อยว่าเป็นของ ปี พ.ศ. ไหน หรือถ้าใครอยากจะลองกลับบ้านไปทุบกระปุกออมสิน เพื่อหาเหรียญตาม ปี พ.ศ. ที่รับซื้อก็ไม่ว่ากัน

พันธบัตร เราไม่ทิ้งกัน – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station กระทรวงการคลังเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 แบบไร้ใบตราสาร (Scripless)

การระดุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ บรรเทาผลกระทบ และแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายใต้แผน พ.ร.ก. กู้เงินวงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท

พันธบัตร เราไม่ทิ้งกัน – สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station กระทรวงการคลังเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 แบบไร้ใบตราสาร (Scripless)

การระดุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ บรรเทาผลกระทบ และแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายใต้แผน พ.ร.ก. กู้เงินวงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท

*นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ได้แก่ สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ และนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร

** ผู้มีสิทธิ์ซื้อสามารถทำรายการซื้อผ่าน BOND DIRECT Application ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้ตามตารางการจำหน่ายช่วงที่ 1 – 3

ซื้อผ่าน BOND DIRECT Application และช่องทางของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์

ธปท. แถลงเศรษฐกิจเดือนมีนา เสถียรภาพแย่ลง นทท.หดตัว 76.4%

ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกข่าว ข่าว ธปท. ​ฉบับที่ 23/2563 เรื่อง แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมีนาคม และไตรมาสที่ 1 ปี 2563

เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2563 หดตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยการระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวรุนแรง หลังหลายประเทศรวมถึงไทยประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ด้านการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำหดตัวสูงขึ้นตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าและราคาน้ำมัน สำหรับเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนหดตัวตามปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อที่อ่อนแอลง และมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดขึ้น ทั้งนี้ อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่หดตัวส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัวสูงขึ้นสอดคล้องกัน มีเพียงการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวตามการทยอยเบิกจ่ายภายหลัง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ประกาศใช้

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ ปรับไปในทิศทางที่แย่ลงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบ จากอัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงานตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่หดตัวสูง ขณะที่ตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงตามดุลการค้าที่ลดลงจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น และรายรับภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงมาก ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิจากทั้งด้านสินทรัพย์และด้านหนี้สิน อย่างไรก็ดี เสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ หดตัวรุนแรงที่ร้อยละ 76.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการหดตัวสูงในทุกสัญชาติ จากผลของการประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศในหลายประเทศรวมถึงไทยเพื่อควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ลดลงมากส่งผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร และธุรกิจขนส่งผู้โดยสาร

ด้านทางการจีนแถลงการประณามการชุมนุมประท้วงของชาวฮ่องกงว่าเป็นการ “ก่อการร้าย” นับเป็นการชุมนุมประท้วงท้าทายจีนครั้งใหญ่ตั้งแต่การส่งมอบเกาะจากอังกฤษในปี 1997

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป