พชร์ อานนท์ ยันไม่เคยกินเด็กปั้น ไม่โกหก

พชร์ อานนท์ ยันไม่เคยกินเด็กปั้น ไม่โกหก

กลายเป็นเรื่องราวยืดเยื้อมานานหลายเดือน ระหว่างผู้กำกับคนดัง พชร์ อานนท์ และอดีตเด็กในสังกัด จนตอนนี้เรื่องถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล งานนี้เจ้าตัวก็ได้มาออกรายการ เรื่องลับมาก (NO CENSOR) ทางช่องเนชั่นทีวี ช่อง 22 เมื่อวันที่ 28 ม.ค. เพื่อมาเปิดใจสัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวด้วย ทำหนังเรื่องพจมาน

ตอนทำงานเห็นว่ามีเรื่องกับดาราหลายคน?

ผมไม่ได้มีเรื่อง ผมเป็นคนตรง อย่างเขาเบี้ยวคิวเรา คนอื่นเขาเงียบ แต่ผมพูดไงว่าอีนี่ให้คิวเราแล้วแคนเซิล มันก็เลยเป็นข่าว อย่างกรณีนึงผมต่อค่าตัวดาราซึ่งปกติอยู่แล้ว ทุกคนก็ต่อ ไม่ใช่ผมต่อคนเดียว แต่ไม่เป็นข่าว แต่เรื่องเงินผมยืนยันว่าผมจ่าย เพราะทุกอย่างเป็นระบบบริษัท ผมมีหลักฐานครบ เพราะไม่งั้นจะมีเรื่องภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง

ถ้าขาลงก็คงไม่ได้กำกับหนัง ปีที่แล้วก็ 2 เรื่อง มีสงกรานต์ฯ กับหลวงตา บางทีกำกับหนังผมก็ไม่ใช้ชื่อพชร์ อานนท์ ใช้ชื่ออื่นไป เพราะมันไม่ใช่แนวเรา คนดูเยอะ โดยเฉพาะตุ๊ดตู่กู้ชาติกับหลวงพี่แจ๊ส 5G หลายคนนะ มอส, เต๋า เต๋านี่เจอทีไรก็กอดกัน ไม่ได้มีอะไรกันนะ กอดกันก็รักกัน หลายคนไม่เคยมีปัญหา ผมไม่เคยมีปัญหากับเด็กพวกนี้อยู่แล้ว

ผมจะดูแลเป็นพี่น้องมากกว่า ช่วยเหลือกัน น้องไปดีเราก็สนับสนุน เพราะตั้งแต่ทำงานเป็นนักปั้น เป็นโมเดลลิ่งไม่เคยหักเงินเด็กสักบาท ใครโดนพี่พชร์หักเงินให้ออกมาพูดเลย ไม่เคยหัก ให้เต็มที่ เด็กก็รับเงินเอง แต่ดูว่าเด็กรับถูกต้องมั้ย เขาจ่ายถูกมั้ย เราให้เด็กรับเงินด้วยชื่อของเขา เราไม่เคยรับ นอกจากคุยราคาให้ มีหลายรุ่น จอห์น ดีแลน,โด่ง สิทธิพร , แอนดริว ผมดูหลายคนจนเยอะดูไม่ไหว ไม่ได้หักอะไร เพราะผมทำงานมีเงินเดือนใช้ ก็สนิทสนมมากกว่า ดูแลเป็นพี่น้อง แต่มันก็ไม่เคยมีปัญหากับเด็ก

มีคนฝากเข้ามา ตอนนั้นผมจะทำหนังเรื่องนึง ม. 6/5 ปากหมาท้าผี อยากได้เด็กใหม่ทั้งหมดเลย มีคนแนะนำเข้ามา เอามาแคสเหมือนทุกคน แคสเสร็จเขาก็ได้เล่นและเซ็นสัญญา เพราะผมเข็ดแล้วเวลาไม่เซ็นสัญญา ทำงานอยู่แล้วไปที่อื่น ต้องไปขอคิวจากคนอื่นทั้งที่เคยเป็นเด็กของเรา เลยทำสัญญาทุกราย มีทั้งหมด 8 คน ล็อตม.6/5

คนมาแรกๆ ไม่แสดงออก ยังเรียบร้อย นี่ที่ผมเจอมานะ แรกๆ ยังไม่ออกฤทธิ์ ตอนหลังก็เริ่มมา เราก็ป้อนงานต้องทำอย่างนี้ๆ สอนเขาทุกเรื่อง เรื่องส่วนตัวเขาผมไม่ยุ่ง แต่ตอนเข้ามาเขามีแฟน ผมก็บอกว่าต้องเก็บให้มิด เพราะเราทำงานให้วัยรุ่นดู ไม่ได้ห้าม แต่อย่ามาประเจิดประเจ้อควงออกงาน แล้วแฟนคลับเขาเป็นเด็กมัธยม ผมก็เตือนตลอดว่าถ้าคบคนนี้แล้วชีวิตดีก็คบไป แต่ถ้าชีวิตไม่ดีก็อย่าคบ ผมสอนแบบนี้ทุกคน ไม่ใช่เฉพาะเขาคนเดียว แต่ถ้ามีก็ไม่ห้าม ให้มีไป แต่ต้องเก็บเป็นความลับเท่านั้นเอง

ไม่เคยอาจารย์ นอกจากมาแต่งตัวที่บ้าน ผมไม่เคยให้เด็กพวกนี้ไปๆ มาๆ เพราะผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งในบ้านผม ให้เต็มที่เลย เขามาอันดับ 1 ให้งานทำ 7 ปี เล่นหนัง 13 เรื่อง เรื่องแรกๆ 3-4 แสน ซึ่งเยอะมากสำหรับเด็กใหม่ หลังจากนั้นก็เพิ่มเป็น 5-6-7-8 แสน เพิ่มไปเรื่อยๆ ผมเห็นว่าเขาอยู่กับเรา เขาเซ็นสัญญากับเรา เราก็ไม่ทำให้เขาลำบาก เราให้เยอะกว่าคนอื่น

ต่าย ชุติมา ไม่เคยโกรธ ทิม พิธา คืบหน้าเซ็นใบหย่า

หลังจากที่เป็นคุณแม่เลี้ยงลูก ตอนนี้เจ้าตัวก็หวนคืนวงการบันเทิงอีกครั้งแล้ว สำหรับ ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ ที่ตอนนี้เจ้าตัวเตรียมมารับเล่นในซีรี่ส์เรื่อง “Mother…เรียกฉันว่าแม่” งานนี้พอมีโอกาสได้เจอต่ายในงานบวงสรวง จึงขอถามความคืบหน้าที่เจ้าตัวเซ็นใบหย่ากับ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เสียหน่อย

เราก็จะรับเฉพาะวันที่น้องไม่อยู่ค่ะ ตอนนี้ก็คือเลี้ยงเยอะ แต่ว่าเอาวันที่เขาไม่อยู่ คือเวลาให้คิวก็เฉพาะตอนที่น้องไม่อยู่ด้วย ก็จะไม่ค่อยมีวันให้เขา เพราะอย่างกองหนัง เขาก็บอกว่าคิวเรายากมากเลย ไม่ค่อยมีเวลา

“ก็ไม่เกี่ยว มันก็เป็นเหมือนตามความเหมาะสมค่ะ ถามว่ารู้สึกยังไงบ้างที่ได้อยู่กับลูกมากขึ้น มากกว่าก่อนหน้านี้ ก็คือยังไงก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ดีแหละเวลาที่เขาไม่อยู่ เพราะว่ายังไงแม่ก็จะต้องดู ลงดีเทลทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ก็พยายามทำให้ดีที่สุดเวลาที่เขาอยู่ หรือถ้าไม่อยู่ เราก็พยายามฝากโน่นนี่ให้ครบตามในเรื่องที่เราเป็นห่วงค่ะ”

ก็อย่างพวกเชื้อโรค ซึ่งเราเป็นห่วงมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งทวีคูณ ยิ่งเรื่องฝุ่นเราก็เป็นห่วงในเรื่องของมลภาวะ อยากให้พกเครื่องฟอกอากาศในวันที่อากาศไม่ดี อยู่ในบ้านก็อย่าเปิดหน้าต่าง เปิดเครื่องกรอง อย่างเรื่องเครื่องกรองอากาศเราก็ใช้แบบดีที่สุดอยู่แล้ว ถ้าเกิดไปอยู่ในที่ที่เครื่องไม่โอเค เราก็จะกังวลค่ะ

ก็ยังอยากให้เป็นเรื่องในกระบวนการ ไม่อยากลงรายละเอียดค่ะ ถามว่าสบายใจขึ้นมั้ยในช่วงเวลาที่ผ่านมา จริงๆ มันก็สบายใจตั้งแต่แรกอยู่แล้วแหละ หมายถึงว่าตั้งแต่แรกเริ่มที่มีเรื่อง มันก็ดี ทุกอย่างก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

ทุกอย่างต้องพูดตามความจริง ไม่คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว เพราะถ้าเราปิดบัง แน่นอนเขาก็ต้องปิดบังเรา ต้องเลี้ยงให้เขาเป็นเพื่อนสนิทของเราค่ะ เขาบอกเราได้ทุกเรื่อง เราก็บอกเขาได้ทุกเรื่อง รอเวลาแค่ให้น้องถาม ถ้าเขาอยากรู้อะไรก็ยินดีที่จะเล่าอยู่แล้ว

ใช่ๆ เป็นรายการ Rabbit on the Moon ค่ะ มีมูเตลู เป็นรายการที่เหมือนเราพาชิม พาเที่ยว ก็พาไปไหว้พระบ้าง ดูฮวงจุ้ย อะไรที่เป็นสายมู รู้สึกว่าคนเราเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเฮงด้วย ไม่งั้นทำไมบริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัทถึงได้มีซินแส มีการทำพิธี ถ้าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ค่ะ แต่เราก็ต้องใช้วิจารณญาณในการทำด้วย อย่างมงาย เราทำบนหลักวิทยาศาสตร์ ทำแล้วได้มั้ย ที่นี่ทำแล้วเป็นยังไง ผลเป็นยังไง ดูแล้ววิเคราะห์ไปด้วย

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป